กระจกใสพิเศษ ต่างจาก กระจกธรรมดาอย่างไร?

12/07/19
Beauty Mirror

เวลาซื้อเฟอร์นิเจอร์กระจก เช่น กระจกแต่งหน้า ตู้กระจก เราเชื่อว่าหลายๆท่าน อาจจะคิดว่ากระจกทุกชนิดในท้องตลาด แม้ว่าจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันไป เฉดสีที่เห็นก็ไม่เหมือนกัน แต่องค์ประกอบภายใน ขั้นตอนผลิต คุณภาพต่างๆ ก็น่าจะใกล้เคียงกันหมดใช่ไหม?

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เพราะผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันก็จะมีชื่อเรียกที่ต่างกัน ซึ่งหลักๆที่คนทั่วไปรู้จักก็จะมี กระจกธรรมดากับกระจกใสพิเศษ โดยกระจกสองชนิดนี้จะมีส่วนประกอบที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งประโยชน์และการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย

แล้วสองสิ่งนี้ต่างกันอย่างไร?

กระจกใสพิเศษนั้นต่างจากกระจกใสธรรมดาอย่างไร? แล้วเราควรเลือกใช้แบบไหนถึงจะดีกว่า? เราหาคำตอบมาให้คุณแล้วในบทความนี้

กระจกใสธรรมดา

กระจกใสธรรมดา หรือเรียกอีกอย่างว่า Regular Clear Glass แม้คำว่ากระจก ‘ใส’ นั้นน่าจะแปลได้ว่าใสมากๆ หรือเป็นกระจกที่ส่องแล้วชัดเจนที่สุด จริงๆแล้วไม่ใช่เสมอไปเพราะ Clear Glass ไม่ใช่ชนิดกระจกที่ใสที่สุดในโลกใบนี้

เพราะส่วนประกอบของกระจกใสไม่ได้มีปริมาณของโลหะสูงมาก แต่ก็ยังสูงกว่าจะกระใสพิเศษอยู่ดี ด้วยการที่มีส่วนผสมเป็นโลหะมากกว่าทั่วไป กระจกใสจะมีสีเขียวติดมาให้เห็นบ้าง ยิ่งเมื่อกระจกที่มีความหนามากจะเห็นว่าขอบเป็นสีเขียวได้อย่างชัดเจน

กระจกใสธรรมดามีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

กระจกใสธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันนั้น ถ้าลองดูที่ขอบเราจะเห็นว่าเป็นสีเขียว นั่นแปลว่ากระจกใสที่เราเห็นๆกันนั้นมันมีความเขียวแฝงอยู่ ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นกรณีที่เรากระจกแผ่นนั้นไปโค้ทสีขาวด้านหลัง

ด้วยคุณภาพเช่นนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับการเพ้นท์ การพ่นสีกระจก เพราะจะทำให้กระจกมีสีที่เพี้ยนได้ อีกทั้งพวกเฟอร์นิเจอร์ตู้กระจกทั้งหลายก็ไม่นิยมเช่นกัน เพราะมีความใสไม่มากพอ ด้วยเหตุผลนี้ผู้ผลิตกระจกส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้กระจกใสพิเศษแทน

แต่ข้อดีของกระจกใสธรรมดาคือ มีราคาที่ถูกกว่ามาก จึงนิยมนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้ความใสพิเศษสูงมากนัก เช่น ประตู หน้าต่างทั่วไป

กระจกใสพิเศษ

ด้วยความใสพิเศษของกระจกชนิดนี้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานหลากหลายทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายใน รวมทั้งงานเฟอร์นิเจอร์กระจกที่ต้องการเน้นความใสของกระจกมากเป็นพิเศษ เช่น ตู้กระจก กระจกแต่งหน้า กระท็อปโต๊ะ งานพ่นสี งานพิมพ์ลายต่างๆ เป็นต้น

โดยการใช้งานโดยทั่วไป กระจกใสพิเศษ มีคุณสมบัติทุกอย่างเช่นเดียวกับกระจกใสธรรมดา สามารถนำมาแปรรูปเพื่อใช้งานตามจุดประสงค์ต่างๆได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะนำมาทำเป็นกระจกเทมเปอร์ หรือกระจกลามิเนต

ดังนั้น การเลือกใช้กระจกใสพิเศษไม่ว่าจะเป็นกระจกเงาใสพิเศษ กระจกเคลือบสีใสพิเศษ หรือกระจกพิมพ์ลายใสพิเศษ จะช่วยให้สีที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีความเหมือนจริงมากขึ้น

ทำไมเราจึงต้องใช้กระจกใสพิเศษ?

แม้ว่ากระจกใสพิเศษจะมีราคาที่สูง เมื่อเทียบกับกระจกธรรมดาแล้ว แต่ด้วยความใส ความขาวบริสุทธิ์ของเนื้อกระจกแล้ว จึงเหมาะนำมาใช้กับงานพวกตู้โชว์สินค้า กระจกเฟอร์นิเจอร์ กระจกแต่งหน้า งานพ่นสี พิมพ์ลายต่างๆ ซึ่งทำให้มองเห็นสีหรือลายได้สีตรงความเป็นจริงได้มากกว่ากระจกทั่วไป ซึ่งในปัจจุบัน กระจกใสพิเศษได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเลยทีเดียว

Glass is Good นำกระจกใสพิเศษมาทำอะไรบ้าง?

เพราะกระจกเงาใสพิเศษ ผลิตจากกระจกที่มีเนื้อวัสดุใสดุจคริสตัล เราจึงใช้กระจกนี้ นำมาผลิตเป็นกระจกเงามีไฟ (Beauty Mirror) , กระจกเงาติดผนัง (Mirror Wall)

เหตุผลที่นำมาใช้ เพราะกระจกชนิดนี้ ให้ภาพสะท้อนที่คมชัดมากที่สุด สมจริง ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แตกต่าง และดีกว่ากระจกเงาทั่วไปในท้องตลาด ทำให้คุณไม่พลาดทุกการแต่งหน้า อีกทั้งยังสามารถนำมาติดตกแต่งห้องเพื่อปรับลุคของห้องให้ดูกว้างขึ้นอีกด้วย ซึ่งเรามีบทความที่เกี่ยวข้องมาให้อ่านกัน คลิก -> ห้องแคบดูกว้างด้วย “กระจกเงาติดผนัง”

เราได้ใช้กระจกเงาความหนา 6 มม. ผลิตจากกระจกใสพิเศษ (ใช้วัตถุดิบนำเข้าสั่งผลิตพิเศษ แบรนด์ AGC (Thailand) ตามมาตรฐาน มอก. พ่นทรายกัดปรอทตามแบบ และยิงเลเซอร์บริเวณโลโก้และสวิทซ์สัมผัส

หากคุณสนใจ Glass is Good เรามีกระจกผลิตภัทฑ์จากกระจกใสพิเศษมานำเสนอก็คือ กระจกแต่งหน้ามีไฟ ให้คุณเลือกถึง 2 แบบ