ทำไมต้อง “กระจกติดผนัง” แล้วทำไมต้องเป็น “กระจกลวดลาย” ?
เพราะกระจกเป็นวัสดุที่มัน วาว สวย เรียบหรู ดูดี จึงเป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับการใช้งานและการตกแต่งอาคาร ไม่ว่าจะเป็นราวบันได ประตู หน้าต่าง ราวระเบียง ผนัง ครัว ห้องน้ำ ฯลฯ ทำให้การเลือกใช้กระจกให้เหมาะสมจริงๆนั้นเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อยเลย
บทความนี้ เรามาเจาะลึกในเรื่องของการเลือกใช้กระจกมาตกแต่งผนังกันโดยเฉพาะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ที่พักอาศัย หรือออฟฟิศ มาดูกันว่ากระจกที่เหมาะสำหรับการตกแต่งผนังให้สวยงามนั้นมีอะไรให้เราเลือกบ้าง
1. กระจกเงาใส กระจกเงาสี
จะติดตั้งแผ่นใหญ่ แผ่นเล็ก pattern เรียบง่ายหรือซับซ้อน แล้วแต่ความพึงพอใจ โดยถ้าเป็นกระจกเงาใสก็ให้ภาพสะท้อนที่ชัดเจน ส่วนกระจกเงาสี มีตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้มๆ ซึ่งภาพสะท้อนก็จะมืด-สว่างต่างกันไปตามความเข้มของสีกระจกนั่นเอง
การใช้กระจกเงาที่ทำให้เกิดภาพสะท้อน จะช่วยให้พื้นที่ดูมีมิติและดูกว้างขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้พื้นที่ดูกว้าง โปร่ง โล่งขึ้นจริงๆ ควรใช้กระจกเงาสีอ่อนๆ หรือกระจกเงาใสไปเลย ส่วนมากจะติดกระจกที่ ห้องรับแขก ห้องนอน (แต่ห้องนอนควรระวัง อย่าติดกระจกเงามากเกินไป จะให้ความรู้สึกไม่สบายตัวเพราะเงาสะท้อน)
*ข้อควรระวัง ไม่ควรนำกระจกเงามาใช้เป็นกระจกกันเปื้อนที่ครัว เพราะกระจกเงาไม่สามารถทำเป็นกระจกนิรภัยได้ เมื่อใช้งานไปมีโอกาส โดนกระแทก หรือถูกความร้อนสะสมนานๆก็จะเสี่ยงทำให้กระจกแตกหรือร้าวได้
2. กระจกเคลือบสี (Splash Back / Colored Glass)
สำหรับที่พักอาศัยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเป็นกระจกกั้นเปื้อนบริเวณผนังครัว ด้วยคุณสมบัติกระจกนิรภัยที่ทนต่อความร้อน รับแรงกระแทกต่างๆได้ดีกว่ากระจกทั่วไป และมีสีสันให้เลือกหลายสิบสี สามารถเลือกแมทช์สีให้เข้ากับชุดครัวหรือสไตล์ของห้องได้เลย
กระจกชนิดนี้จะมีการพ่นสีสูตรพิเศษที่ให้การยึดเกาะสูงไว้ด้านหลังกระจก ทำให้คุณภาพของสีจะคงทนสวยงามนานนับหลายสิบปีเลยทีเดียว เพราะชั้นภายนอกคือกระจกใส ทำให้กระจกชนิดนี้เราทำความสะอาดได้ง่ายมากๆ และถึงจะใช้งานไปนานๆแล้ว กระจกก็จะยังคงดูเหมือนใหม่ ไม่ดูโทรมหรือเก่าขึ้นเลย
*ข้อควรระวัง ถึงจะเป็นกระจกนิรภัยก็ไม่ควรนำกระจกมาใช้เป็นท็อปหน้าโต๊ะ เพราะถึงแม้กระจกนิรภัยจะแข็งบริเวณผิวกระจกด้านหน้า แต่สันด้านข้างจะเปราะบางแตกได้ง่าย รวมถึง ถ้ามีของหนักๆหล่น หรือใช้ครกทุบแรงๆกระจกก็จะแตกได้เช่นกัน
สำหรับหน้าร้านหรือเป็นช้อปที่ให้บริการลูกค้า เราขอแนะนำให้เลือกใช้กระจกเคลือบสีมากๆเลย ไม่ว่าจะเอามาตกแต่งเป็นผนังหลังเคาน์เตอร์แล้วติดโลโก้ของแบรนด์ไว้ หรือจะใช้สีพื้นเรียบๆ ก็จะได้ผนังที่ให้ลุคคลีน ดูเคลียร์ เรียบ เนี๊ยบและดูดี แล้วด้วยความที่เราสามารถ custom สีให้ได้ตาม CI ของแบรนด์ต่างๆได้ จึงเป็นที่นิยมในการนำมาเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีเลย
นอกจากกระจกเงาสีและกระจกเคลือบสีแล้ว ยังมีกระจกอีกชนิดที่เราภูมิใจนำเสนอมาก และยังไม่ถูกนำมาใช้งานในการตกแต่งผนังแพร่หลายมากนัก
นั่นก็คือ “กระจกลวดลาย” (patterned glass) ซึ่งเดิมกระจกลวดลายไม่นิยมมาใช้กับการตกแต่งผนัง เพราะกระจกเคลือบสีหรือเทคนิคการทำสีพื้นยังไม่เป็นที่นิยม จึงถูกนำมาใช้งานเป็นฉากกั้น บานกั้น (Partition) ให้เกิดความเป็นส่วนตัว มีลักษณะเป็นกระจกเงาใส แต่ก็ซ่อนภาพด้านหลังได้ ให้คุณสมบัติเฉพาะที่ดีในอีกแบบหนึ่ง
3. กระจกลวดลาย
กระจกลวดลายจริงๆแล้วก็คือกระจกเงาใสที่ถูกนำมาทำลวดลายนูนสูงต่ำในขณะที่กระจกยังร้อนอยู่ ทำให้เกิดลวดลายต่างๆที่พื้นผิวกระจก
ที่รู้จักกันมากสุดจะเป็นกระจกลอนแก้ว หรือบางคนอาจเรียกว่ากระจกลอนริ้ว ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังมีกระจกลูกฟูก กระจกลวดลายรูปทรงเลขาคณิต ลายธรรมชาติ และอีกมากมาย โดยบทความนี้เราขอเล่าถึงความพิเศษของกระจกลวดลายเพิ่มเติมสักหน่อยละกัน
ด้วยผิวกระจกทั่วไปจะราบเรียบ แต่ผิวกระจกลวดลายจะมีความโค้งนูนของลวดลายต่างๆบนพื้นผิวกระจก ทำให้เมื่อมีแสงมากระทบที่ผิวกระจก จะทำให้ผนังหรือพื้นที่ที่ติดกระจกลวดลายสร้างความดึงดูดน่าสนใจให้กับพื้นที่ ด้วยเสน่ห์ของการหักเหของแสง การเกิดภาพซ้อนที่บิดเบี้ยวเมื่อมองผ่านกระจก สร้างความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี
แต่กระจกชนิดนี้ก็มีข้อจำกัดว่าไม่สามารถนำมาใช้งานเป็นกระจกผนังได้ จะต้องใช้เป็นกระจกกั้นระหว่างพื้นที่เท่านั้น เพราะเป็นกระจกใสที่แสงส่องผ่านได้
แต่ปัจจุบัน เราได้มีการนำกระจกลวดลายมาแปรรูปเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการสกรีนหรือโค้ทสีเพิ่มเข้าไปที่ด้านหลังกระจก ทำให้กลายเป็นกระจกทึบ ซึ่งทำให้สามารถนำมาติดผนังเป็นกระจกตกแต่งผนังได้ทันที
จุดเด่นของกระจกลวดลายเคลือบสีคือ เป็นกระจกที่ค่อนข้าง Unique เพราะหาซื้อคอนข้างยาก ไม่ได้มีขายทั่วไป และโรงงานที่ผลิตกระจกชนิดนี้จะต้องมีความชำนาญในการแปรรูปกระจกพอสมควร เมื่อนำไปใช้งานใครเห็นก็ต้องหันมอง ว่ามันคืออะไร? กระจกอะไร? โดยเราขอนำเสนอตัวอย่างกระจกลวดลายบางส่วนดังนี้…
กระจกลายพีรามิด (pyramids)
มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กๆ นูนๆ ให้ลุคที่ดูร่วมสมัย modern แต่ไม่ดูจืด มีลูกเล่น
ถ้า match กับ silver จะทำให้ดูแพง ดูมิลเลนเนียม ด้วยเนื้อสีตัวนี้ผสมผง(เม็ด)สี ทำให้เห็นประกายวิบวับ หรือ match กับสี น้ำเงิน ก็ดูหวือหวา สดใส trendy
กระจกลาย square lite
มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยม นูน แต่ผิวกระจกจะเป็นตารางเล็กๆ รู้สึกเหมือนผิวที่บุนวม ให้ลุค ที่ดู หรูหราอย่างมีรสนิยม ถ้า match ด้วยสีชมพู จะให้ความหวาน แต่ไม่เชย เป็นความหวานที่ดูแพง หรือถ้าเป็นสีแดงเข้ม จะทำให้ดูเทห์ เหมือนผู้ใหญ่ที่ดูวัยรุ่น เข้มๆ
กระจกลายลอนแก้ว (moru)
มีลักษณะเป็นลอน เป็นลายคลื่น ให้ลุคที่คลาสสิก อบอุ่น match กับสีทอง เพิ่มความสง่างาม ยิ่งขึ้น สามารถติดตั้งได้ทั้งลวดลายที่เป็นแนวนอนและแนวตั้ง
กระจกลายไม้ (wood)
มีลักษณะเป็นเส้นสายสลับกันไปมา คล้ายลวดลายของลายเนื้อไม้ ให้ลุคธรรมชาติ match กับสีเทา จะดู สุขุม เนี๊ยบ ดูดีมีระดับ
หากคุณกำลังมองหาหรือสนใจการตกแต่งพื้นที่ด้วยกระจกที่ไม่เหมือนใคร เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นอีกไอเดียที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับการตกแต่งด้วยกระจกติดผนังด้วย Patterned Glass ที่มีลวดลายที่เนื้อกระจกเลย หวังว่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใครแน่นอน ใครชอบความ Unique และชอบวัสดุกระจกสวยๆ กระจกตัวนี้เราคิดว่าตอบโจทย์แน่นอน!
สนใจรายละเอียดกระจกลวดลาย ศึกษาเพิ่มเติม คลิ้กเลย -> Patterned Glass for Wall
อ่านบทความอื่นๆ
อยากรู้ว่ากระจกเงาติดผนังเขาติดกันแบบไหน ติดได้กี่แบบ ติดแบบไหนสวย ถูกใจ อ่านต่อ How to เลือกกระจกเงาติดผนัง
วัสดุที่ใช้ตกแต่งผนังมีหลากหลาย เปรียบเทียบสิ่งที่ควรรู้ จุดต้องระวัง จุดเด่น วัสดุที่น่าสนใจ อ่านต่อ เปรียบเทียบ วัสดุปิดผนัง หินอ่อน กระจกติดผนัง วอลเปเปอร์
เคล็ดลับการตกแต่งสำหรับคอนโด ห้องพื้นที่แคบ ให้ดูโปร่งโล่งขึ้น จะมีวิธีไหนบ้าง อ่านต่อ ห้องแคบดูกว้างได้ด้วย “กระจกเงาติดผนัง”
ติดต่อเจ้าหน้าที่
Line: @glassisgood
FB: Glass is Good
Email: [email protected]
Mobile: 063 373 3292-4