กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass)
เป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มเพิ่มความปลอดภัยสำหรับการใช้งานกระจก โดยการนำกระจกธรรมดาที่ตัดแต่งรูปทรงตามต้องการแล้ว นำไปอบในเตาความร้อน ~700°C แล้วเป่าลมเย็นลงบนกระจกอย่างรวดเร็ว
อบเทมเปอร์แล้วได้อะไร?
ก็ทำให้กระจกแตกยากขึ้นไง! เพราะกระจกจะมีความแข็งที่ผิวภายนอกมากขึ้นถึง 4 เท่า นอกจากนี้ ถ้ากระจกแตกจริงๆ ก็จะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ ทำให้ไม่เป็นอันตราย หรือถ้าจะอันตรายก็ให้เกิดน้อยที่สุด
จุดเด่นกระจกนิรภัย
- มีความแข็งแรงกว่ากระจกทั่วไป 4-5 เท่า
- ทนความร้อนสูงถึง 290 องศาเซลเซียส
- ทนต่อความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันได้ถึง 150 องศาเซลเซียส
- กรณีกระจกแตกจะแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ลักษณะคล้ายเม็ดข้าวโพด (ลดอันตรายจากความคมของกระจกได้มาก)
เมื่อไหร่ที่เราควรเลือกใช้กระจกเทมเปอร์?
1. เมื่อติดตั้งกระจกผนังใกล้ๆเตาความร้อน เราจำเป็นต้องใช้กระจกเทมเปอร์ เพราะถ้าเราใช้กระจกธรรมดาที่ไม่ได้ผ่านการอบเทมเปอร์ ความร้อนเวลาเราเปิดเตา จะทำให้กระจกแตกได้เลย แต่มีข้อนึงที่ควรระวังก็คือ ถึงจะใช้กระจกเทมเปอร์ เมื่อเราปิดไฟแล้ว ไม่ควรเอาน้ำเย็นไปเช็ดกระจกทันทีเพราะกระจกยังมีความร้อนอยู่ อาจทำให้กระจกแตกได้เช่นกันนะ!
2. เมื่อเราต้องมีการยึดกระจกให้แน่นหนาด้วยสกรูหรือฟิตติ้ง เราควรต้องใช้กระจกเทมเปอร์ เพราะถ้าเราใช้กระจกธรรมดา เราจะไม่สามารถขันสกรูยึดผิวกระจกกับผนังให้แน่นได้เท่าที่ควร (ถ้าขันสกรูแน่นไป แรงบีบของสกรูจะดันให้กระจกแตก) อันนี้เป็นเคสจำเป็นที่เราต้องใช้กระจกเทมเปอร์เพื่อให้ขันสกรูหรือฟิตติ้งให้แน่นหนาได้
3. เมื่อเราใช้กระจกใกล้ตัว เผื่อต้องเจอกับแรงกระแทก เพราะกระจกเทมเปอร์จะมีความแข็งแกร่งที่พื้นผิวเยอะมาก ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกหรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดถึง อย่างเช่น เผลอยกของไปชน หรือทำของหล่นใส่กระจก โอกาสที่กระจกจะแตกก็จะน้อยลง (แต่ก็ไม่ใช่ถึงขั้นกระจกจะไม่แตกเลยนะ!)
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กระจกนิรภัยเทมเปอร์ จึงเป็นกระจกที่เหมาะเป็นอย่างมากที่จะนำมาใช้งานเป็นผนังกระจก ท๊อปโต๊ะ หรือไวท์บอร์ด เพราะเป็นกระจกที่เพิ่มความแข็งแรง และให้ความปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้นอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ ขอฝากคลิปวีดีโอการทดสอบการใช้งานจริงของกระจกเทมเปอร์ของกลาสอีสกู๊ด ที่ถูกทดสอบอย่างโชกโชนเพื่อให้คุณมั่นใจว่า กระจกของเรา “แกร่ง” และใช้งานได้จริง!